ประเด็นร้อน

ทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุนโครงการ 'IP - CoST' ชี้ช่วยป้องกันคอร์รัปชันได้

โดย ACT โพสเมื่อ Sep 09,2019

 

ACT เผย ผลงาน 5 ปี “IP-CoST” ช่วยรัฐประหยัดงบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐแสนล้านบาท


ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง ชี้ เป็นเครื่องมือป้องกันคอร์รัปชันได้ด้านผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทย พร้อมสนับสนุน ปลุกคนไทยต้านทุจริตป้องเงินภาษีตัวเอง


โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2562  องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อคนไทย ร่วมกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดงานสัมมนาระดับภูมิภาคว่าด้วยการสร้างความโปร่งใสในงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หัวข้อ “Increasing transparency and integrity in Public Procurement in the Context of the SDGs”

  นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

 

 
นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

 
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยกระทรวงการคลังในฐานะ ผู้ดูแลการเงินการคลังของประเทศตระหนักถึงความสำคัญ และพัฒนาการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันอย่างต่อเนื่อง ทั้งปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสสูงสุด ซึ่งในหนึ่งถึงสองเดือนข้างหน้ากระทรวงการคลังจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาเชื่อมโยงกับ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เพื่อทำการเชื่อมข้อมูลของทุกหน่วยงาน ลดช่องว่างที่จะก่อให้เกิดการทุจริต

 


นายเรโนลด์ เมเยอร์ ผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทย 

 

นายเรโนลด์ เมเยอร์ ผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทย กล่าวระหว่างการสัมมนาว่า การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐนั้นเป็นเรื่องการใช้เงินภาษีของประชาชน ดังนั้น จึงไม่ควรที่จะปล่อยให้เกิดความสูญเสีย เพราะจะกระทบต่อบริการสาธารณะของผู้ที่จ่ายภาษีเอง โดยที่ผ่านมามีการประมาณตัวเลขการว่ามีความสูญเสียจากการทุจริตของไทยอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาการทุจริตได้ คนไทยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวคิดว่าจะไม่ยอมรับการทุจริตทุกรูปแบบ โดยเริ่มต้นจากตัวเอง และหากดูตัวอย่างจากประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ ก็จะพบว่านอกจากการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน การมีผู้ตรวจการอิสระเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆนั้น เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ นั้นก็เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน ซึ่งทาง UNDP พร้อมจะสนับสนุนไทยในเรื่องเหล่านี้

 


นางญาณี แสงศรีจันทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กล่าวในการแถลงข่าว “ผลการดำเนินงาน 5 ปี ของ IP และ CoST ต่อการป้องกันคอร์รัปชันในประเทศไทย” ว่า กรมบัญชีกลาง ในฐานะหน่วยงานกำกับนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของประเทศ ได้ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ประกอบการ ในการป้องกันการทุจริต ด้วยการใช้โครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact: IP) สำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีงบประมาณตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และใช้โครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) สำหรับโครงการที่มีงบประมาณต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท มาตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน ทั้งสองเครื่องมือสามารถป้องกันคอร์รัปชันได้ ประหยัดงบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวน 83,138 ล้านบาท มาจากการใช้โครงการ IP จำนวน 74,893 ล้านบาท คิดเป็น 30.40 % ของงบประมาณโครงการที่ดำเนินการจัดหา และจากโครงการ CoST อีก 8,245 ล้านบาท หรือประหยัดจากวงเงินงบประมาณ 20.53 %

 

นางญาณี แสงศรีจันทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง


นางญาณี กล่าวด้วยว่า โครงการที่ใช้ข้อตกลงคุณธรรมหรือ IP มีจำนวนทั้งสิ้น 104 โครงการ วงเงินงบประมาณรวม 1,798,445 ล้านบาท มีโครงการที่ได้ดำเนินการจัดหาได้แล้ว 51 โครงการ และงบประมาณของโครงการที่ดำเนินการจัดหาแล้ว 240,000 ล้านบาท มูลค่าสัญญา 170,000 ล้านบาท ขณะที่โครงการก่อสร้างที่เข้าร่วม CoST มีทั้งสิ้น 253 โครงการ วงเงินงบประมาณกว่า 110,000 ล้านบาท โดยมีการเปิดเผยข้อมูลบนระบบ CoST แล้ว 235 โครงการ และในจำนวนนั้นได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้วเสร็จ เป็นจำนวน 220 โครงการ  และในระยะต่อไปโครงการ IP ซึ่งดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 นั้น จะมีการขยายโครงการให้มีจำนวนมากขึ้นและครอบคลุมงานจัดซื้อจัดจ้างทุกประเภท  ขณะที่โครงการ CoST เพื่อให้เกิดความยั่งยืนจึงได้ผลักดันให้ดำเนินการภายใต้พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ เช่นเดียวกับ IP โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์และเตรียมจัดทำประกาศ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563

 

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)


ด้านนายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรภาคประชาชนที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนา IP และ CoST กับกรมบัญชีกลางอย่างต่อเนื่อง หากนับจำนวนโครงการที่ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้วคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้ การประหยัดงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่ใช้สองเครื่องมือนี้จะสูงถึง 142,769 ล้านบาท โดยมาจากโครงการข้อตกลงคุณธรรมซึ่งจะประหยัดงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 97,013 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 27.06 % ของงบประมาณโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่ดำเนินการจัดหาได้แล้ว จำนวน 358,448 ล้านบาท จำนวน 62 โครงการ นอกจากนั้น ยังมีโครงการ รฟม. (PPP) ซึ่งสามารถประหยัดงบประมาณเป็นเงิน 37,457   ล้านบาท


"ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ตัวเลขประหยัดงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่สูงถึงหลักแสนล้านบาท แต่เป็นการสร้างผลทางสังคมซึ่งเกิดจากการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อาสาสมัครเข้ามาทำหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ทั้งหมด 230 คน นั้น ล้วนทำงานด้วยความทุ่มเทเสียสละ ตามความยากความซับซ้อนของแต่ละโครงการ เมื่อเทียบกับปริมาณงานถือว่าทำงานเกินกำลัง ที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้ง IP และ CoST ทำให้ข้าราชการที่สุจริตสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีที่ยืนในสังคม เพราะเป็นกระบวนการปกป้องไม่ให้มีการใช้อิทธิพลกับข้าราชการ ย่อมเท่ากับช่วยป้องกันการทุจริตในระบบราชการ พร้อมไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณ และเพิ่มประสิทธิผลคุณภาพโครงการ องค์กรจึงตั้งเป้าหมายที่จะขยายผลด้วยการนำข้อตกลงคุณธรรรมไปใช้ในโครงการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) และโครงการสัมปทานขนาดใหญ่ของรัฐ สำหรับโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจและมีความเสี่ยงเรื่องความโปร่งใส ซึ่งอาศัยพ.ร.บ.การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 ในการดำเนินงาน" นายวิชัย กล่าว