ประเด็นร้อน

ล้างบางส่วยการศึกษา

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 04,2017

 - - สำนักข่าว โพสต์ทูเดย์ วันที่ 4/06/60 - -


อลัมน์ ณ มุมขวา: ล้างบางส่วยการศึกษา

ณ กาฬ เลาหะวิไลย

เป็นเรื่องที่กระทบกับวงการศึกษาอย่างแรง เมื่อมีการเปิดโปง ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในภาคเหนือมีพฤติกรรมไม่สุจริต ใช้เงินจากสำนักงานโรงงานกว่า 40 ล้านบาท
ถ้าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูล ก็คงต้องยุติไป แต่ถ้ากลายเป็นเรื่องจริงก็คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เพื่อรื้อใหญ่ทั้งระบบ
ข้อมูลที่เปิดเผยออกมาเป็นการเก็บค่าหัวคิว เก็บส่วยอย่างชัดเจน โดยไม่มีกระบวนการตรวจสอบ หรือควบคุมเงินที่รีด หรือเรียกเก็บ
          
ศูนย์กลางการเก็บส่วยก็คือ สำนักงานผู้อำนวยการ ที่จะรับเงินจากส่วนต่างๆ แยกจากการเงินของโรงเรียนโดยผู้ปกครองนักเรียนไม่ทราบ
รายรับที่เข้ามาแยกได้เป็นรายปี คือ ค่าเทอมเด็กนักเรียนในชั้นเตรียมอนุบาล หรือเนิร์สเซอรี่ มีทั้งหมด 3 ห้อง คือ ห้อง EP 1 ห้อง ปีละ 41,250 บาท/คน ห้องเรียนธรรมดา 2 ห้อง ปีละ 23,250 บาท/คน

ถัดมาเก็บเป็นรายเดือน คือ รายได้จากการสอนพิเศษตามโครงการฝากลูกไว้กับครูช่วงหลังเลิกเรียน
ครูผู้สอนต้องจ่ายรายได้จากการสอนให้สำนักงานผู้อำนวยการคนละ 10 คน คนละ 500 บาท หรือห้องละ 5,000 บาท/เดือน ซึ่งมีห้องเรียนทั้งสิ้น 60 ห้อง รวม 3 แสนบาท/เดือน
ส่วนรายรับที่ได้เป็นรายวัน คือ รายได้จากค่าเช่าพื้นที่จำหน่ายอาหารในโรงอาหาร โดยทางการเงินของโรงเรียนต้องแบ่งเงินให้ 50%
รายรับเป็นช่วงเวลา คือ ค่าสอนพิเศษช่วงซัมเมอร์ คือ เดือน เม.ย. มีรายได้ 2.5 หมื่นบาท และเดือน ต.ค. มีรายได้ 2 หมื่นบาท โดยชั้นเตรียมอนุบาลจะเก็บล่วงหน้าพร้อมค่าเทอมรายปี ส่วนเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1 และ ป.1 จะจ่ายเมื่อถึงเวลาเรียน

นอกจากนั้น ยังมีรายได้เงินทอนจากเอกชนที่เข้ามาเหมาทำอาหารกลางวันเด็กนักเรียน สัปดาห์ละประมาณ 4.1 หมื่นบาท รายได้จาก ค่าบริการลงเล่นน้ำในสระว่ายน้ำคนละ 20 บาท/ครั้ง
ฟังแล้วก็น่าตกใจที่ทำไมถึงเรียกเก็บส่วยได้มหาศาล เอากัน ทุกเม็ดไม่ตกหล่น
และผู้ที่ต้องรับภาระก็คือบรรดาผู้ปกครองที่จ่ายโดยตรง หรือจ่ายทางอ้อมโดยให้นักเรียนเป็นค่าใช้จ่าย

กรณีโรงเรียนดังที่ภาคเหนือ ก็เหมือนกับกรณีโรงเรียนดังที่ กทม.ที่ผู้อำนวยการถูกร้องเรียนเรียกเงินแป๊ะเจี๊ยะจำนวนมหาศาลรายละ 4 แสนบาท และแต่ละปีจะมีเด็กฝากนับร้อยคน ลองคำนวณดูก็ได้ว่าจะเป็นเงินเท่าใด

ถึงผลสอบทั้งสองกรณียังไม่ออกมา แต่บรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลายโดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการควรที่จะต้องสอบใหญ่กันทั้งประเทศ
โรงเรียนใดมีช่องโหว่ มีรายรับที่ไม่ลงบัญชี หรือถูกหักหัวคิวใน รูปแบบใดบ้างต้องสอบออกมาให้หมด อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้
องค์กรอิสระต่างๆ ที่มีหน้าที่ต่อต้านการคอร์รัปชั่นก็น่าจะมีช่องทางให้ครู หรือผู้ปกครอง ร้องเรียนโดยตรงถึงพฤติกรรมส่วยการศึกษา ไม่จำเป็นต้องไปร้องเรียนต้นสังกัด เพื่อล้างบางส่วยการศึกษาให้หมดไป อย่าเห็นเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม
ขนาดครู อาจารย์ยังเก็บส่วย
แล้วจะผลิตนักเรียนที่ดีออกมาได้อย่างไร