ประเด็นร้อน

ทุ่ม1.8แสนล.เร่งรถไฟ-ซื้อเครื่องบินฝึก

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 12,2017

 - - สำนักข่าว ผู้จัดการรายวัน 360 องศา วันที่ 12/07/60 - -

          
ผู้จัดการรายวัน 360 - ครม. เห็นชอบโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-โคราช วงเงิน 1.79 แสนล้านบาท ร.ฟ.ท. เตรียมจ้างตรง กรมทางหลวง ตอกเข็ม 3.5 กม.แรก เดือนต.ค.นี้ "บิ๊กตู่" ย้ำไทยได้ประโยชน์จากโครงการเต็มที่ พร้อมแจงความจำเป็นซื้อเครื่องบินขับไล่ขั้นต้นแบบ T-50 TH ด้าน "บิ๊กป้อม" ยันโครงการโปร่งใสไร้ครหา แก้ต่างทหารไม่ได้ทำรัฐประหาร เพียงปรามไม่ให้คนทะเลาะกัน ลั่นชัดรัฐประหารไม่มีวันหมด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากประชาชนเรียกร้อง ทหารก็ต้องออกมา
          
ผู้จัดการรายวัน360 - นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (11 ก.ค.) ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย ตอนที่ 1 จากกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กม. กรอบวงเงินลงทุน 179,413 ล้านบาท โดยผลการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 5-7 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ตกลงค่าจ้างที่ปรึกษาออกแบบที่ 1,706 ล้านบาท ต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้ 1,824 ล้านบาท โดยจะเสนอร่างสัญญาการออกแบบ หรือสัญญา 2.1 ต่อ ครม. จากนั้นจะมีการลงนามว่าจ้างจีนในการประชุมคณะกรรมการร่วมฯ ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 15-17 ส.ค.60 ในขณะเดียวกันจะเร่งเจรจาในส่วนของสัญญาจ้างที่ปรึกษาควบคุมการก่อสร้าง หรือสัญญา 2.2 ซึ่งคาดว่าจะลงนามได้ในต้นเดือนก.ย.60 เพื่อนำไปสู่การก่อสร้างตอนแรก ระยะทาง 3.5 กม.
          
ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะเจ้าของโครงการจะว่าจ้าง กรมทางหลวง (ทล.) ในรูปแบบหน่วยงานรัฐต่อรัฐ เพื่อให้ก่อสร้างงานโยธาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างตอนกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. วงเงิน 425 ล้านบาท ในเดือนต.ค.60 ส่วนตอนที่ 2 ปากช่อง-คลองขนานจิตร 11 กม., ตอนที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา 119.5 กม. และตอนที่ 4 แก่งคอย-บางซื่อ 119 กม. จะเปิดให้มีการประมูลก่อสร้างตามปกติ โดยได้เร่งรัดให้จีนส่งแบบอย่างต่อเนื่องภายใน 4 เดือน
"บิ๊กตู่" แจงไทยได้ประโยชน์รถไฟไทย-จีน
          
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ -หนองคายเป็นโครงการที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำในเรื่องความเชื่อมโยงทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ ประเด็นสำคัญคือเราจำเป็นต้องพัฒนาการขนส่งทางรางซึ่งเดิมมีรถไฟธรรมดาอย่างเดียว โดยต้องดูว่าเส้นทางใดที่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถไฟความเร็วสูง และจะเชื่อมโยงกันได้หรือไม่ จากนั้นต้องนำมาพิจารณาว่าจะใช้วิธีการใดระหว่างประมูล หรือร่วมมือ ซึ่งต้องย้อนกลับไปถึงรัฐบาลชุดที่ผ่านมาซึ่งตกลงกันว่าเป็นความร่วมมือไทย-จีน โดยตนได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีจีนซึ่งได้ขอให้มีบริษัทจากจีนมาบริหารในประเทศไทย แต่เราตอบกลับว่า ขอทำเองเพราะเกรงการผูกขาด โดยเราเอาเทคโนโลยีของเขามาร่วมก่อสร้าง และใช้ส่วนประกอบของประเทศไทยให้มากที่สุด รวมถึงส่งคนไทยไปเรียนรู้เทคนิคต่างๆ จากจีน และให้เขามาสอนเพื่อเราจะได้ควบคุมเองในอนาคต วันนี้เราไม่ได้ให้เขาสักอย่างซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้ตกลงกันแล้ว ทำให้เราจะได้ประโยชน์ในวันข้างหน้าอย่างเต็มที่
ยันไม่ได้เทงบฯ ด้านอาวุธอย่างเดียว
          
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นแบบ T-50 TH ระยะที่ 2 จำนวน 8 เครื่อง ของกองทัพอากาศ วงเงินประมาณ 8.8 พันล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 3 ปีว่า โครงการดังกล่าวยังได้อนุมัติมาตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 59 ซึ่งขอให้เห็นใจนักบินที่ต้องฝึกบินด้วย เพราะนักบินใช้เครื่องบิน L-39 ซึ่งไอพ่นหมดอายุแล้ว หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาย่อมจะส่งผลเสียมากกว่าเดิม ส่วนวิธีการจัดซื้อมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจึงได้จัดซื้อมาจากเกาหลีใต้ ทำให้เห็นว่าเราไม่ได้มีการผูกมัดกับใครทั้งสิ้น ส่วนเรื่องทุจริตหรือไม่ขอให้ตรวจสอบเอาดู
          
"ขอให้เข้าใจตรงกันว่า รัฐบาลไม่ได้นำงบประมาณไปกระจุกตัวอยู่เพียงเรื่องของอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างที่พูดถึง เพราะยังมีการอนุมัติงบประมาณในภาคเกษตรเฉลี่ย 2-3 หมื่นล้านบาทต่อสัปดาห์ เพราะงบประมาณของภาคส่วนใดก็เป็นของส่วนนั้น ไม่มีการนำมาแทนที่กันและกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในตอนท้าย
"บิ๊กป้อม" ย้ำซื้อเครื่องบินโปร่งใส
          
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีโครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นแบบ T-50 TH ระยะที่ 2 จำนวน 8 เครื่อง ว่า เป็นโครงการที่ ที่ประชุม ครม. อนุมัติมาตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.59 โดยการจัดซื้อครั้งนี้เป็นการจัดซื้อในระยะที่ 2 ซึ่งการจัดซื้อระยะแรกได้จัดซื้อไปแล้ว 4 ลำ ส่วนระยะที่ 2 อีก 8 ลำ และระยะที่ 3 อีก 4 ลำ จึงจะครบฝูงบินทั้งหมด 16 ลำ ส่วนงบประมาณนั้นกองทัพอากาศได้จัดเตรียมไว้แล้ว
          
สำหรับเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นแบบ T-50 TH นั้นเป็นเครื่องบินฝึกที่จะเข้ามาประจำการทดแทนเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ 1 หรือ L-39 ZA/ART ของกองทัพอากาศ ที่มีการใช้งานมานานกว่า 20 ปี โดยขอยืนยันว่าการจัดซื้อครั้งนี้มีความโปร่งใส และเป็นการซื้อลักษณะรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) อีกทั้งเหล่าทัพยังเป็นผู้จัดซื้อด้วย
ไม่รับปากอนาคตไม่มีรัฐประหาร
          
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวข้อเรียกร้องจากนักการเมืองให้มีการปฏิรูปกองทัพว่า กองทัพมีการปฏิรูปตนเองมาโดยตลอด ทั้งยังมีการปฏิรูปในทุกๆ เรื่อง เมื่อถามว่าการปฏิรูปกองทัพเป็นเพียงแค่เทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เพื่อไม่ให้มีการทำรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า การทำรัฐประหารครั้งที่ผ่านมาไม่ได้เรียกว่าเป็นรัฐประหาร เพราะเป็นเพียงการแยกไม่ให้คนทะเลาะกันเท่านั้น ทหารไม่ได้มีเจตนาปฏิวัติ ซึ่งตนคิดว่าทหารยุคนี้ไม่มีใครทำแล้ว
          
เมื่อถามว่าจะเป็นการปฏิรูปกองทัพที่ทำให้ทหารไม่มายุ่งกับการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ทหารไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองซึ่งเมื่อได้เกี่ยวกันไปแล้วก็จะเลิกหลังจากเลือกตั้งก็จบ เมื่อถามย้ำว่าพูดได้หรือไม่ว่าต่อไปจะไม่มีการรัฐประหาร พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "จะพูดได้อย่างไร เราก็ไม่รู้ แล้วแต่สถานการณ์ หากประชาชนเขาเรียกร้องเหมือนครั้งที่แล้ว ทหารก็ต้องออกมา".