ประเด็นร้อน

พิพากษามัด'พล.ท.มนัส'รับเงิน14ล้าน ผิดชัดเอี่ยวแก๊งค้ามนุษย์

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 20,2017

 - - สำนักข่าว แนวหน้า วันที่ 20/07/60 - -

          
ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาเกือบ 500 หน้า ตัดสินคดี ค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่มี "พล.ท.มนัส" พร้อมพวก 103 ราย เป็นจำเลย ชี้บิ๊กทหารผิดหลักฐานชัดรับเงิน 14 ล้าน เอี่ยวแก๊งข้ามชาติ ซ้ำเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ต้องโดนโทษ 2 เท่า 
          
ชัด'มนัส'รับ14ล.-โทษ2เท่า
พล.ท.มนัส คงแป้น จำเลยที่ 54 อดีตผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยกที่ 1 ระนอง นั้น ศาลเห็นว่าช่วงที่มีการพบแรงงานเมียนมาและบังกลาเทศ ซึ่งเป็นชาวโรฮีนจา ทางการมีนโยบายผลักดันกลุ่มแรงงานเหล่านี้ออกนอกประเทศ ซึ่งระหว่างที่พล.ท.มนัส จำเลย 54 ดำรงตำแหน่ง ผอ.กอ.รมน. ตำรวจสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้มากกว่า 200 คน ซึ่งต้องผลักดันโดยส่งลงเรือลอยลำน่านน้ำสากล เพราะทั้งประเทศเมียนมาและบังกลาเทศไม่ยอมรับว่าบุคลดังกล่าวเป็นพลเมือง แต่จากพยานหลักฐานโจทก์ พบว่าเมื่อมีการควบคุมแรงงานดังกล่าวแล้วได้ส่งให้จำเลยที่ 54 เพื่อผลักดันตามขั้นตอน
          
แต่ขณะเดียวกันโจทก์ก็มีแรงงานโรฮีนจา ผู้เสียหายที่ถูกจับกุมช่วงดังกล่าว ให้การว่าเคยถูกจับกุมแล้ว แต่ได้รับการช่วยเหลือกลับมาเข้าแคมป์เทือกเขาแก้ว ซึ่งรับฟังได้ว่าแม้จะให้มีการผลักดันแรงงานออกน่านน้ำ ตามแผนพิทักษ์อันดามัน 1 แต่แรงงานสามารถกลับมาได้โดยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากรายงานประวัติรับราชการของจำเลยที่ 54 พบว่า ได้เป็นผอ.กอ.รมน., ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกชุมพร (ผบ.จทบ.ชุมพร) และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 จ.สงขลา ช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2553-ธันวาคม 2557 แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาที่จำเลยปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวมีความเชื่อมโยงในการผลักดันแรงงานโรฮีนจาออกนอกประเทศ
         
ขณะที่ในการค้นบ้านพัก นางอรปภา จันทร์พ่วง จำเลยที่ 65 และน.ส.ศิริพร หรือแมว อุดมฤกษ์ จำเลยที่ 82 พบหลักฐานเกี่ยวสลิป โอนเงิน ซึ่งเชื่อมโยงบัญชีพล.ท.มนัส จำเลยที่ 54 ซึ่งพยานหลักฐานโจทก์ ปรากฏว่ามีการรับโอน เงินถึง 65 ครั้ง รวม 14,850,000 บาท เป็นการโอนช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2555 ถึง 61 ครั้งเป็นเงิน 13,800,000 บาทเศษ และช่วงเดือนสิงหาคม 2556 อีก 2 ครั้ง เป็นเงิน 1 ล้านบาทเศษ
          
"แม้ พล.ท.มนัส จำเลยที่ 54 จะต่อสู้ว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการพนันวัวชน ซื้อขายวัวและเป็นเงินสนับสนุนจากเอกชนในการผลักดันแรงงานโรฮีนจานั้น จำเลยไม่มีพยานหลักฐานเป็นเอกสารชัดเจน ขณะที่การผลักดันแรงงานรัฐก็มีงบประมาณสนับสนุนอยู่ จึงเชื่อได้ว่าเงินที่ได้รับโอนบัญชีของจำเลยที่ 54 เป็นผลประโยชน์ที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยอาศัยอำนาจหน้าที่คุ้มครองดูแลผู้กระทำความผิดในการค้ามนุษย์ ไม่ให้ถูกจับกุม การกระทำนั้น จึงเป็นความผิดฐานร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ฯและมีส่วนร่วมเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งจำเลยที่ 54 เป็นเจ้าพนักงานจึงต้องระวางโทษ 2 เท่าของความผิดนั้น"
นายกฯฉุนสื่อด่ามนัสแค่กระพี้
          
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีศาลอาญามีคำตัดสินพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และกลุ่มข้าราชการ กับพลเรือนในคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาว่า กรณีของพล.ท.มนัส คงเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น มีคนอยู่ในกระบวนการจำนวนมาก ไม่ใช่แค่มนัสคนเดียว ตนไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องกระพี้แบบนี้ คนเดียวหรือแค่ 2-3 คน ต้องไปดูทั้งระบบเป็นอย่างไร การทุจริต การเรียกรับผลประโยชน์ การค้ามนุษย์มีกี่พวก สื่อก็คอยจะว่าคนทำผิดเป็นทหาร อย่าลืมว่าทหารทั้งประเทศมีถึง 4-5 แสนคน มนัสเป็นเพียงคนเดียว จะทำให้เจ๊งทั้งหมด กองทัพเจ๊งทั้งระบบหรืออย่างไร
          
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯให้สัมภาษณ์ดังกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อตอบคำถามเสร็จได้ตัดบทพร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที