ประเด็นร้อน

วัดใจ 'บิ๊กตู่'ปฏิรูป 'ดีเอสไอ' ยุบ 'สอบสวนพิเศษ'เซ่นคดีการเมือง

โดย ACT โพสเมื่อ Nov 16,2017

- - สำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ - -

 

นับตั้งแต่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจจากนักเลือกตั้ง ล่วงเลยมา 3 ปีกว่า "วาระแห่งชาติ" ของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ คือ "ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง"

         

โดยเฉพาะวาระ "ยกเครื่อง" กระบวน การยุติธรรม ที่ถูกนักการเมืองค่อนขอดว่า "ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน" กรมสอบสวน คดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงถูก "จุดพลุ" ให้กลับมา "ทอล์กออฟเดอะทาวน์" อีกครั้ง

         

รายงานผลการศึกษาของคณะกรรมา ธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สรุปออกมาว่า ให้ "ยุบ" ดีเอสไอ และ "โอน" เป็น "แผนก" สำนักงานการสอบสวนคดีพิเศษ และ "ขึ้นตรง" สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.)

         

รายงานของ สปช.ยังได้เสนอตั้งคณะกรรมการการสอบสวนคดีพิเศษ (ก.พ.ศ.) โครงสร้างคล้ายคลึงกับคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) มีอัยการสูงสุด (อสส.) เป็นประธาน เพื่อเป็นหลักประกัน ความเป็นอิสระ "ปลอดจากการเมือง"

         

"ทดแทน" คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่มีโครงสร้างมาจาก "ฝ่ายการเมือง" ได้แก่ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมอบหมายให้ "รองนายกฯ" ทำหน้าที่แทน มีอำนาจลงมติให้คดีความผิดทางอาญาใดเป็น "คดีพิเศษ"

         

ตลอด 15 ปี นับตั้งแต่ดีเอสไอก่อตั้งเมื่อปี 2545 ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) ดีเอสไอถูกมองว่า ขาดความเป็นอิสระ-ถูกครอบงำจากฝ่ายการเมือง

         

โดยเฉพาะช่วง 1 ทศวรรษของความขัดแย้งทางการเมือง นับเป็น "ยุคมืด" ของดีเอสไอ เพราะถูกสังคม "ตีตรา" ว่า เป็น "เครื่องมือทางการเมือง" ให้กับ พรรคการเมือง-รัฐบาล ใช้ "เล่นงาน" ศัตรูทางการเมือง จนอธิบดีดีเอสไอ "เสียศูนย์"

         

โดยเฉพาะในยุคของ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ซึ่ง "เขา" เป็นคนร่วมร่างกฎหมาย "ก่อตั้ง" ดีเอสไอ ในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง อย่างไรก็ตาม "ธาริต" กลับได้ "รับตำแหน่ง" อธิบดีดีเอสไอ ในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

         

"ธาริต" สร้างผลงาน "เข้าตา" รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในตำแหน่ง "ทีมโฆษก ศอฉ." โดยการฟ้องแกนนำเสื้อแดงในข้อหาก่อการร้าย

         

ทว่าถึงแม้ว่าในปี 2554 การเมืองจะเปลี่ยนขั้ว-เข้าสู่ยุคนารีขี่ม้าขาว "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แต่ "ธาริต" ก็ยัง "กุมบังเหียน" ในดีเอสไอ ตลอด 2 ปี 9 เดือน และยังได้รับการ "ต่ออายุ" ราชการเมื่อครบ 4 ปี เมื่อปี 2556

         

ตลอดอายุงานของ "ธาริต" ในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้รับฉายาว่า "ธาริต เปลี่ยนสี" เพราะถูกกล่าวหาว่าเลือกปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น ไม่สั่งฟ้องทักษิณ- คุณหญิงพจมาน กรณีจำหน่ายและโอนหุ้น ชินคอร์ปให้กับบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสเมนต์ จำกัด ว่าเป็นการรายงานเท็จหรือรายงานไม่ถูกต้องต่อ ก.ล.ต. แต่ กคพ. มีมติรับกรณีนายสุเทพ-แกนนำ กปปส.ในขณะนั้นพร้อมพวก กระทำความผิดทางอาญา สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองกว่า 20 คดีเป็นคดีพิเศษ

         

กระทั่ง "ธาริต" ต้องประสบวิบากกรรม-ขึ้นโรงขึ้นศาล ทั้งถูก "ไล่ออก" จากราชการ กรณีโยกย้ายข้าราชการ ไม่เป็นธรรม และศาลฎีกาฯ นักการเมือง รับฟ้องกรณีร่ำรวยผิดปกติ

         

ดีเอสไอในยุครัฐบาล-คสช.ก็ถูกมองว่าเป็นช่องทางไล่ล่าทางการเมือง ตัวอย่างล่าสุด กรณีฟอกเงิน ธนาคารกรุงไทย "ดีเอสไอ" รับลูก ป.ป.ง. ขยายผลมาจากคดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อบริษัทเครือกฤษดามหานคร โดยทุจริต อยู่ระหว่างไต่สวน มีชื่อของ "พานทองแท้ ชินวัตร" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "ทักษิณ" อยู่ในข่าย "ผู้ต้องสงสัย"

         

อาจกล่าวได้ว่า การทำหน้าที่ของ ดีเอสไอจึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามทิศการเมือง วัดใจ พล.อ.ประยุทธ์ "ปฏิรูป" ดีเอสไอให้ "ปลอดการเมือง" หรือไม่

 

 

 

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw