ประเด็นร้อน

ติงปม 'ชาร์จแบตไฟหลวง' ก.ม.เปิดช่อง - รอมติครม.

โดย ACT โพสเมื่อ Jan 10,2018

- - สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ - -

 

"ชัชวาล" ติงสธ.รอมติครม. ก่อนออกประกาศปมใช้ทรัพย์สินราชการ พร้อมแนะผ่อนปรนใช้เล็กน้อย ไม่เกิดความเสียหาย ด้านเลขาธิการองค์ต่อต้านคอร์รัปชัน ยันกฎหมายระบุชัด ไม่ต้องรับผิดหากกระทำเล็กน้อยหรือตามระเบียบกระทรวงอนุญาต

 

ในการเสวนาและรับฟังความคิดเห็นเรื่อง "ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. .... : อีก 1 ก้าวเพื่อประเทศไทย ใสสะอาด" จัดโดยคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ..... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

 

นายเจริญศักดิ์ ศาลากิจ เลขานุการกมธ. กล่าวว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้มีหลักการและเหตุผลคือการบริหารงาน ของรัฐจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส เปิดเผย และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ดังนั้นจึงสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรการ และกลไกในการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นการขัดกัน ระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างเข้มงวด และเป็นการสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้หลังจากรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายกมธ.จะนำข้อมูลที่ได้รับไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและรอบด้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป

 

ด้านพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานกมธ.กล่าวภายหลังการเสวนาว่า ความเห็นจากการเสวนาส่วนใหญ่จะเป็นมาตราที่อยู่ในกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งในบางเรื่องยังไม่มีความชัดเจนมากพอ ส่วนเรื่องการออกประกาศที่มีการห้ามชาร์จโทรศัพท์มือถือในสถานที่ราชการด้วยนั้น ตรงนี้มองกันว่า ถ้าหากมีมติครม.ออกมาแล้วจากนั้นหน่วยราชการค่อยเอามาเป็นมาตรฐานน่าจะดีกว่า "กรณีนี้กระทรวงสาธารณสุขถือว่าออกประกาศเร็วไปหน่อย อย่างไรก็ตามยังมีการแสดงความเห็นด้วยว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีคำว่า "เล็กน้อย" ด้วย และมีการคุยกันแล้วว่า การชาร์จโทรศัพท์มือถือไม่ได้ทำให้เสียเงิน สักเท่าไร แต่กระทรวงสาธารณสุขกลับไปออกประกาศว่า ห้ามและมีเรื่องของการทำผิดวินัยเข้าไปด้วยจึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมาเท่านั้นเอง" พล.ต.อ.ชัชวาลย์กล่าว

 

ชี้ก.ม.ระบุชัดเล็กน้อยไม่มีความผิด

 

ขณะเดียวกันจากกรณีที่กระทรวงกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้ยกเลิกการออกประกาศกระทรวง เรื่องมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะประเด็นการห้ามชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ พร้อมสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปทบทวนในเรื่องดังกล่าวเพื่อความชัดเจนนั้น

 

นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) กล่าวว่า เรื่องนี้มีที่มาจากคำให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือน ก.ย.2560 ที่อธิบายว่าการกระทำที่เกิดเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน หากต้องดำเนินคดีกันอย่างจริงจัง เพียงการนำเอกสารตราครุฑ ไปใช้ในงานบุญ หรือชาร์จไฟมือถือในสถานที่ราชการ ก็ถือเป็นความผิด ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดเพราะตามเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่ง ผลประโยชน์ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ..... ระบุไว้ชัดว่า บุคคลนั้นไม่ควรรับผิดหากเป็นการกระทำเพียงเล็กน้อย หรือหน่วยงานนั้นมีระเบียบอนุญาตแล้ว

 

เชื่อสธ.จุดกระแสใช้ทรัพย์สินราชการ

 

ทั้งนี้จากข้อเท็จจริงแนวทางการที่สธ. ออกเป็นระเบียบใน 5 ข้อ ถือเป็นเรื่องที่กำลังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ทั้งการใช้รถยนต์ของทางราชการไปใช้ในธุระส่วนตัว หรือ นำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดทิ้งไว้ในสถานที่ราชการ มีเพียงข้อห้ามนำโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ที่มองว่าเป็นเรื่องหยุมหยิมเพราะไม่ได้เกิดความเสียหายอะไร แต่โดยรวมนับว่าสธ.ได้จุดประกายให้สังคมกลับมามองถึงปัญหาการใช้ทรัพย์สินของทางราชการควรแก้ไขกันอย่างไร หากจะมีการยกเลิกมาตรการทั้งหมดก็ไม่เป็นอะไร เนื่องจากรัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาหาแนวทางการใช้ทรัพย์กรของทางราชการไว้แล้ว

 

ส่วนตัวมองว่าการออกระเบียบ กฎเกณฑ์ใดๆ ก็ตาม ควรที่จะมีความ ชัดเจนที่ไม่ต้องตีความให้ยุ่งยากในแง่ปฏิบัติ และนั่นจะทำให้การป้องกันการทุจริตมีประสิทธิภาพหรือหาก กฎหมายจากส่วนกลางมีความชัดเจน แต่ละกระทรวง ทบวงกรม ก็คงไม่ต้องออกมาตรการขึ้นมาเพิ่มเติม 

 

"เรื่องของการใช้ไฟหลวง ถ้าเปรียบเทียบกับยุคก่อนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว การที่ข้าราชการยกหูโทรศัพท์ของทางราชการพูดคุยแต่เรื่องส่วนตัว ก็จะมีความชัดเจนในแง่ของการปิดบัง นำทรัพย์สินราชการไปใช้ส่วนตัว แต่ปัจจุบันเครื่องมือสื่อสารมีการเปลี่ยนแปลง ข้าราชการมีโทรศัพท์มือถือใช้กัน ทั้งเพื่อส่วนตัวและติดต่อ ผู้บังคับบัญชา แม้ความสูญเสียจากการชาร์จไฟหลวงจะไม่มากมาย แต่ถ้าวันนี้ไม่พูดถึงเรื่องนี้ ในอีก 15 ปีข้างหน้า ก็คงไม่ทันได้คิดกันว่า การชาร์จไฟรถยนต์ในสถานที่ราชการควรปฏิบัติกันอย่างไร" นายมานะกล่าว

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw