ประเด็นร้อน

คืนความเป็นธรรมให้ขรก.ที่บริสุทธิ์

โดย ACT โพสเมื่อ May 15,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

คอลัมน์การเมือง : บทบรรณาธิการ

 

รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เอาจริงเอาจังในการปราบปรามและแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ในทุกรูปแบบ ที่สะเทือนใจสังคมคือประเด็นเงินทอนวัดวงเงินมหาศาล ดำเนินคดีกับข้าราชการ พระภิกษุสงฆ์ที่เกี่ยวข้องทุจริตรับเงินบาปหลายสิบราย แต่เรื่องนี้ ยังไม่สามารถเรียกความศรัทธากลับคืนวงการพุทธศาสนาได้ จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันสะสางปัญหาให้จบ


ผลงานอีกขั้นหนึ่งคือการปราบปรามการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ผู้ป่วยเอดส์ในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จากการตรวจสอบเหมือนว่าลามปามไปเกือบทุกจังหวัด ตรวจตรงไหนก็เจอตรงนั้น รวมทั้งการโกงเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ในกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีเป้าหมายช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในต่างจังหวัด ก็ยังถูกเหลือบเขมือบไปมหาศาล


ทั้ง 3 โครงการทุจริต ทั้งเรื่องเงินทอนวัดเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต และเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์คำนวณแล้วถูกโกงไปไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ก็น่าแปลกใจไม่น้อยประหนึ่งว่ากระบวนการพิจารณาในเรื่องนี้เป็นไปอย่างล่าช้า ผู้ที่เกี่ยวข้องยังลอยนวลเชิดหน้าชูตาในสังคม หรือบางรายหลบหนีไปต่างประเทศ ผิดกับการโกงเงินสหกรณ์หลายๆ แห่งผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่ในเรือนจำหมดแล้วเรียกว่ารับกรรมทันตาเห็นในวัยชรา


ในการแก้ไขปัญหาเรื่องแบบนี้ยังมีการใช้คำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติฉบับต่างๆ เพื่อตรวจสอบเจ้าพนักงานของรัฐเนื่องจากถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมาย จากการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ จึงให้ข้าราชการเหล่านั้นที่มีทั้งข้าราชการประจำ และฝ่ายการเมืองพ้นจากตำแหน่งไปก่อน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันหรืออาจต้องใช้เวลามากกว่านั้น


ปัญหาก็คือว่า หลายคนที่ถูกคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบฉบับต่างๆ นั้นกระทำผิดตามข้อร้องเรียนจริง ก็ถูกดำเนินการทั้งวินัย อาญา แต่ไม่ตัดสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์เรื่องที่ถูกกล่าวหาซึ่งก็ต้องสู้แก้ต่างกันต่อไป แต่ข้าราชการฝ่ายประจำหรือ ฝ่ายการเมืองอีกหลายคนได้มีการสอบสวนแล้วปรากฏว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียน ทุกคนได้แต่เฝ้ารอคอยเพื่อจะกลับไปทำงานหน้าที่ราชการต่อไป


แต่แม้ผลสอบสวนจะออกมาแล้วว่าไม่ผิด การคืนตำแหน่งยังไม่เกิดขึ้น หรือบางรายกว่าจะได้คืนตำแหน่งหรือเยียวยาในตำแหน่งที่ใกล้เคียง ก็ต้องใช้เวลาล่วงเลยเป็นปี บางรายได้คืนตำแหน่งแล้วยังไปเปลี่ยนชื่อตัวเองเพื่อไม่ให้มีตำหนิหรือ จุดด่างพร้อย


รัฐบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทุจริตอาจจะมองว่าเป็นปัญหาเล็กๆ ในการคืนตำแหน่งผู้บริสุทธิ์ แต่สำหรับผู้บริสุทธิ์แล้วมองว่านี่คือเรื่องใหญ่รับราชการมาค่อนชีวิต แล้วต้องมาหมดอนาคตกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยไม่ได้กระทำผิด ก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราเห็นว่าถ้าใครกระทำผิดก็ต้องจัดการขั้นเด็ดขาดแต่ถ้าไม่ได้กระทำผิดก็ต้องรีบคืนตำแหน่งโดยทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw