Hot Topic!

รอดูคณะกก.ปฏิรูปตำรวจ โดนใจมหาชนหรือเสียของ?

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 06,2017

- - สำนักข่าว แนวหน้า ฉบับวันที่ 6/07/60 - -

ทีมข่าวการเมือง
ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำหนดให้ต้องมีการปฏิรูปตำรวจภายใน 1 ปีหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมาในที่สุดการปฏิรูป ตำรวจก็เริ่มนับหนึ่งเสียทีเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบรายชื่อ 36 บุคคลเป็นคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจโดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน
          
รายชื่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจทั้ง 36 คนนอกจาก พล.อ.บุญสร้าง ยังประกอบด้วยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ อดีตรองผบ.ตร. พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตปลัดสำนักนายกฯ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.บุญชัย ชื่นสุชน อดีตผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ อดีตรองผบ.ตร. พล.ต.อ.สมศักดิ์ แขวงโสภา อดีตผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผบ.ตร. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วยผบ.ตร.
          
นายทัศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายมานิจ สุขสมจิตร ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นางเบญจพรรณ สร่างนิทร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) นายศุภชัย ยาวะประภาษ นายกสมาคมโรงเรียน นายร้อยตำรวจ นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) นายศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นายธานิศ เกศวพิทักษ์ อดีตรองประธานศาลฎีกา นายเข็มชัย ชุติวงศ์ รองอัยการสูงสุด นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ อดีต ผู้บัญชาการทหารอากาศ ดร.อมร วาณิชวิวัฒน์ อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และ นายวรรณชัย บุญบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
          
ดูจากรายชื่อคณะกรรมการที่ออกมาแล้วมีจุดอ่อนอยู่บ้างดังที่ นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งคำถามและข้อสังเกตว่า จะหวังปฏิรูปตำรวจได้หรือเมื่อคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ 36 คน เป็นตำรวจถึง 15 คน ทหาร 1 คน ข้าราชการโดยตำแหน่ง 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ใช่ ตำรวจ 15 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 2 คน ทั้งนี้เมื่อรวมเสียงทหาร ตำรวจและข้าราชการรวมกัน 23 เสียง กลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมการทั้ง 36 คน
          
"ที่น่าวิตกคือตำรวจส่วนใหญ่ไม่เคยแสดงท่าทีสนับสนุนการปฏิรูปตำรวจ และกรรมการสายผู้ทรงคุณวุฒิหลายคนเคยแสดงความเห็นคัดค้านการแยกอำนาจการสอบสวนออกจากอำนาจการจับกุมปราบปราม อีกทั้งไม่มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นกรรมการแม้แต่คนเดียวซึ่งอาจขัดหลักการของรัฐธรรมนูญที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม"
เพราะฉะนั้นแค่เริ่มต้นตั้งคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจดูเหมือนว่าการปฏิรูปตำรวจก็ถูกตั้งคำถามเสียแล้ว
          
หนึ่งในเสียงเรียกร้องของมหาชนที่ฝากความหวังไว้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ตั้งแต่เมื่อเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็คือการปฏิรูปตำรวจเนื่องจากพฤติการณ์ของตำรวจใน สายตาของประชาชนไร้ซึ่งศักดิ์ศรีไม่ต่างจากโจรในเครื่องแบบ ทั้งๆ ที่ตำรวจน้ำดีมีอยู่จำนวนไม่น้อยแต่ต้องถูกกลืนและอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลของสังคมตำรวจเลว
          
ปัญหาใหญ่ของวงการตำรวจซึ่งเป็นต้นตอแห่งความชั่วร้ายทั้งมวลก็คือการทุจริตและเล่นพรรคเล่นพวก โดยเฉพาะการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้าย นายตำรวจซึ่งเกิดจากโครงสร้างองค์กรตำรวจที่รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางมากเกินไป ซึ่งเมื่อต้นทางที่มาของนายตำรวจระดับต่างๆ ส่วนใหญ่มาจากการทุจริตหรือไม่ก็ระบบเล่นพรรคเล่นพวกเสียแล้วแน่นอนว่าปัญหาที่ตามมาคือโจรในเครื่องแบบสีกากีในรูปแบบต่างๆ ทั้งการรีดไถ เก็บส่วยจากแหล่งอบายมุขและสิ่งผิด กฎหมายต่างๆ เพื่อส่งให้นาย และเนื่องจากตำรวจมีอำนาจบังคับใช้ กฎหมายและเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมทั้งอำนาจจับกุมดำเนินคดีสามารถจะกลั่นแกล้งยัดข้อหาพลิกคดีจากดำเป็นขาวจากขาวเป็นดำยิ่งเปิดช่องทางให้มีการทุจริตและตำรวจใช้อำนาจตามใจชอบจนสร้างความเกลียดชังทำลายความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อวงการตำรวจ
          
ที่ผ่านมามีความพยายามปฏิรูปตำรวจมาหลายครั้งแต่ก็ถูกต่อต้านจากวงการตำรวจที่พยายามรักษาสถานภาพค่านิยมอันเลวร้ายของตัวเองที่ประพฤติปฏิบัติกันมาจนชาชินทำให้การปฏิรูปตำรวจล้มเหลวมาตลอด
          
อย่างไรก็ตาม ควรให้โอกาสและความเป็นธรรมแก่คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจชุดนี้โดยจับตารอดู ผลงาน เพราะนี่จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือ ชื่อเสียงเกียรติยศและความน่าเชื่อถือทั้งของ พล.อ.บุญสร้างและคสช.ว่า จริงใจปฏิรูปตำรวจให้สำเร็จเพื่อชาติบ้านเมืองในระยะยาวหรือการยึดอำนาจของคสช.เพื่อปฏิรูปวงการสีกากีจะเสียของ