ต้องเอาจริงปฏิรูประบบราชการ

โดย ACT โพสเมื่อ Feb 27,2018

- - สำนักข่าวแนวหน้า - -

 

ช่วงนี้เกิดข่าวใหญ่เกี่ยวกับการทุจริตอื้อฉาวครึกโครมหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเน่าเฟะเหลวแหลกของระบบราชการไทย ซึ่งจำเป็นต้องมีการปฏิรูปผ่าตัดอย่างจริงจังในเรื่องหลักธรรมาภิบาล เนื่องจากนับวันการ ทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่ข้าราชการจะฝังรากลึก รวมทั้ง ปัญหาการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ใส่ใจในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนจนหลายกรณีกลายเป็นปัญหาบานปลาย

 

ที่ผ่านมาหลายต่อหลายกรณีที่สะท้อนการทุจริตประพฤติมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ อย่างกรณีทายาทมหาเศรษฐีเครื่องดื่ม ชูกำลังกระทิงแดงที่ขับรถชนตำรวจกลางกรุง ซึ่งจนบัดนี้เวลาผ่านมากว่า 5 ปี ผู้ต้องหาก็ยังหนีกระบวนการยุติธรรมไปได้อย่างลอยนวลโดยที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวมารับโทษตามกฎหมายจนมีการประชดประชันว่าคุกมีไว้ขังเฉพาะคนจน

 

หรือกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษหนีโทษจำคุกในคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์กลับถูกปล่อยให้หลบหนีออกนอกประเทศไปได้อย่างลอยนวล หรือกรณี เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์เจ้าของสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ก็มีข่าวว่าตำรวจพาหลบหนีโทษความผิด ออกนอกประเทศท่ามกลางข่าวส่วยธุรกิจสีเทาและยังพัวพันไปถึงกรณีสุดอื้อฉาวเมื่ออดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนหนึ่งยืมเงิน 300 ล้านบาท จาก "เสี่ยกำพล"แล้วพยายามแก้ตัวว่าเป็นการยืมในฐานะเพื่อนเพื่อนำไปลงทุนทางธุรกิจซึ่งตัวเองทำธุรกิจมานานแล้วโดยอาชีพตำรวจเป็นแค่ไซด์ไลน์เท่านั้น

 

หรือคดีปริศนาอลเวงสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูก รางวัลที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีคนบางคนแอบอ้างเป็นเจ้าของสลาก โดยมีนายตำรวจ ระดับสูงสั่งให้บิดเบือนสำนวนคดีเพื่อช่วยเหลือ ผู้แอบอ้างคนดังกล่าว และล่าสุดมีการสั่งย้าย นายตำรวจที่ร่วมขบวนการบิดเบือนสำนวนคดีหลายคน

 

และล่าสุดที่กำลังอื้อฉาวบานปลายก็คือคดี"ป้าทุบรถ"เมื่อน.ส.บุญศรี แสงหยกตระการเจ้าของบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ กทม.โกรธใช้ขวานและค้อนทุบรถของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่มาจอดรถขวางหน้าประตูบ้าน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงประเด็นปลายเหตุโดยประเด็นสำคัญที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดสะท้อนความเน่าเฟะของระบบราชการโดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยปละละเลยทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูกกฎหมายจนบานปลายมาจนทุกวันนี้

 

ครอบครัว "แสงหยกตระการ" ได้ซื้อบ้านหลัง ดังกล่าวมานานนับสิบปีก็ด้วยหวังว่าจะใช้เป็นที่พักพิงใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข แต่แล้วกลับมีนายทุนหลายคนมาซื้อที่ดินรอบบริเวณบ้านแล้วสร้างเป็นตลาดสดถึง 5 แห่ง ทั้งๆ ที่เป็นหมู่บ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยจนสร้างความทุกข์เดือดร้อนทรมานต่อจิตใจต่อครอบครัว "แสงหยกตระการ" มานานนับสิบปี จากการที่มีรถที่มาซื้อของในตลาดจอดขวางประตูเข้าออกบ้าน สิ่งสกปรก หนู กลิ่นเหม็นรุนแรงจากตลาดสดควันพิษจากรถที่พลุกพล่าน และเสียงอันดัง ซึ่งทำลายชีวิตที่ควรสงบสุขของชาวหมู่บ้านจัดสรร

 

ที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นมีการร้องเรียนไปยัง หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเริ่มจากตำรวจท้องที่แต่กลับ นิ่งเฉย และมีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าฯกทม. และสำนักงาน เขตประเวศในอดีต รวมทั้งมีการฟ้องร้องต่อศาลซึ่งศาลก็พิพากษาให้ความคุ้มครองบ้านของ น.ส.บุญศรี แต่อดีตผู้ว่าฯกทม.และสำนักงานเขตประเวศ กลับปล่อยให้มีการสร้าง"ตลาดเถื่อน" อย่างผิดกฎหมาย

 

นอกจากนี้ยังเกิดข่าวอื้อฉาวกรณีขบวนการทุจริตงบโครงการช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ติดเชื้อเอดส์ทั่วประเทศของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเชื่อว่าการทุจริตลักษณะนี้เกิดขึ้นในแทบทุกหน่วยราชการ ทั้งๆ ที่อยู่ในยุคอำนาจพิเศษที่ประกาศให้การขจัดทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ อันสะท้อนวิกฤติการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึกซึ่งถึงเวลาที่ระบบราชการจะต้องปฏิรูปอย่างจริงใจเพื่อให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพและมีจิตวิญญาณรับใช้ประชาชนเจ้าของประเทศ ไม่ใช่ทั้งทุจริตทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเหมือนที่ผ่านๆ มา

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน