ประเด็นร้อน

พระและพวก

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 01,2018

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

คอลัมน์ กวนให้ใส : โดยสารส้ม

 

มีความเข้าใจผิด หรือพยายามจะบิดเบือนด้วยเจตนาแอบแฝง ในทำนองว่า การดำเนินคดีทุจริตเงินทอนวัด หรือ เปรตอมเงินวัดนั้น เป็นการกลั่นแกล้งรังแกพระ ไม่มีการดำเนินคดีกับฝ่ายข้าราชการเลย ดำเนินคดีเอาแต่กับพระ

 

การกล่าวอ้างเช่นนี้ ไม่เป็นความจริง

 

จากการตรวจสอบ พบว่า การสอบสวนและดำเนินคดี กรณีทุจริตเงินงบประมาณแผ่นดินที่จ่ายให้แก่วัดต่างๆ ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้วมีการทุจริตโกงกิน เรียกรับเงินทอน หรือยักยอกเงินไปเข้าพกเข้าห่อ ไม่นำเงินแผ่นดินไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์นั้น ทุกกรณีที่พบการทุจริต มีการดำเนินคดีเอากับข้าราชการทุกกรณี

ตรงกันข้าม บางกรณี ไม่ได้ดำเนินคดีกับพระ เพราะ พฤติการณ์ชัดเจนว่า พระไม่รู้ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องแต่ทุกกรณี ล้วนมีการดำเนินคดีกับข้าราชการเฉพาะกรณีที่อยู่ในชั้นสอบสวน คดียังไปไม่ถึงศาล กรณีวัดดังๆ มีดังต่อไปนี้

 

1.กรณีวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

กรณีทุจริตงบประมาณโครงการเงินอุดหนุนอบรมคุณธรรม จริยธรรม สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชน และ ข้าราชการ เพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบประมาณ 2559 จำนวน 37,200,000 บาท และกรณีทุจริตเงินงบประมาณโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา ประจำปี งบประมาณ 2559 จำนวน 32,500,000 บาท ปรากฏว่า นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. กับพวก รวมทั้งอดีตพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหา

 

นอกจากนี้ ยังมีกรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 10 ล้านบาท ปรากฏว่า มี นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.กับพวก รวมทั้งพระเมธีสุทธิกร และอดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นผู้ถูกกล่าวหา

 

2.กรณีวัดสัมพันธวงศาราม

เป็นกรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5 ล้านบาท ปรากฏว่า มีนายนพรัตน์ อดีต ผอ.พศ. กับพวก รวมทั้งอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม เป็นผู้ถูกกล่าวหา

 

3.กรณีวัดสามพระยา

เป็นกรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5 ล้านบาท ปรากฏว่า มีนายนพรัตน์ อดีต ผอ.พศ. กับพวก รวมทั้งอดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็น ผู้ถูกกล่าวหา

 

4. กรณีที่เกี่ยวข้องกับวัด 3 วัดดังข้างต้น พัวพันกับอดีตพระชั้นผู้ใหญ่

ปรากฏพฤติการณ์เข้าลักษณะฟอกเงินพนักงานสอบสวนจึงดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน ด้วย เป็นคดีอาญา และเป็นเหตุให้สามารถดำเนินการขอศาล ออกหมายจับได้ โดยไม่ต้องผ่านทาง ป.ป.ช.

 

5. นอกจากนี้ ยังมีคดีทุจริตเงินทอนวัด ที่อยู่ในชั้นการดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงของสำนักงาน ป.ป.ช. ปรากฏว่า ทุกคดี ล้วนแต่มีการไต่สวนความผิดของข้าราชการทั้งสิ้นไม่มีคดีไหนเลย ที่ดำเนินคดีแต่กับพระ

 

ยกตัวอย่าง

 

กรณีวัดโคกเลาะ ตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการ ศาสนสงเคราะห์ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. และ น.ส.ประนอม คงพิกุล อดีตรอง ผอ.พศ.

 

กรณีวัดห้วยตะแกละ ตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์

 

กรณีวัดพระพุทธบาทตากผ้า ตำบลมะกอก อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ผู้ถูกกล่าวหา คือ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน ทุจริตเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด

 

กรณีวัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้ถูกกล่าวหา คือ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. ทุจริตเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด เป็นต้น

 

6.ข้อที่พยายามบิดเบือนว่า การดำเนินคดีทุจริตเงินทอน เป็นการกลั่นแกล้งรังแกพระหรือดำเนินคดีแต่กับพระ จึงนับเป็นข้ออ้างที่ยกเมฆ มั่วซั่วอย่างไร้สติ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw