ประเด็นร้อน

พลาดที่ไว้ใจคนผิด

โดย ACT โพสเมื่อ Jul 04,2018

 - - ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ - -

 

คอลัมน์คมคิดฅนเขียน : โดยเขื่อนขันธ์

 

กลายเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์ให้กับนักการเมือง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ หลังจาก "นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์" อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดื่มไวน์ผสมยาพิษฆ่าตัวตาย

 

ก็ต้องบอกว่า ถ้าหากไม่ติดข่าวทีมหมูป่า ติดอยู่ในถ้ำหลวงเชื่อเถอะ...เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ ต้องระดับพาดหัวแน่ ๆ ยิ่งก่อนหน้านั้น อดีตปลัด พม. ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการ จากกรณีมีชื่อพัวพันการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ ร่วมกับอดีตข้าราชการระดับสูงอีกนับสิบราย แถมยังถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดยึดทรัพย์สินไว้กว่า 88 ล้านบาท และยังมีคดีอาญา-คดีแพ่งติดตัวอีกหลายคดี

 

แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ การออกมาแถลงข่าวของ "นายพนาไพร นราแก้ว" ที่ปรึกษากฎหมายนายพุฒิพัฒน์ บอกว่า ประเด็นที่สื่อระบุเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด ไม่เป็นความจริง เนื่องจากข้อกล่าวหาทุจริต ไม่ว่าจะ ปปง. ป.ป.ช. หรือกระทั่ง พม. ยังไม่มีหน่วยงานใดชี้มูลความผิด

 

ส่วนสาเหตุของการฆ่าตัวตายนั้น ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากความน้อยใจ ติดต่อบุคคลเพื่อชี้แจงขอคำปรึกษา แต่ไม่ใช่การติดต่อเพื่อหาช่องทางหนีคดี หลายครั้งไม่มีเสียงตอบรับเลย จนทำให้อาจจะเกิดความเครียดและกดดันที่ไม่สามารถติดต่อกับบุคคลดังกล่าว จึงอาจเป็นประเด็นให้คิดสั้นได้ ส่วนจะเป็นบุคคลใดท่านไม่ได้พูดถึง

 

แต่ประโยคทองของ ที่ปรึกษากฎหมายอดีตปลัด พม.น่าจะอยู่ที่คำพูดที่ว่า ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต 3 วัน ได้พูดคุยกับนายพุฒิพัฒน์ในห้องส่วนตัวที่บ้าน นายพุฒิพัฒน์กล่าวเพียงสั้น ๆ โดยไม่ได้ระบุพาดพิงถึงบุคคลใดว่า "ผมไม่ได้ร่วมมือกับเขา ผมสั่งให้หยุด แต่เขาไม่ฟังผม ผมพลาดที่ไว้ใจคนผิด"

 

น่าเสียดาย...ถ้านายพุฒิพัฒน์ตัดสินใจเปิดเผยข้อมูลสำคัญ บอกสังคมให้รับรู้ว่า สั่งใครให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุด และพลาดที่ไว้ใจใคร เพราะถ้าเกี่ยวข้องกับการทุจริตใน พม. ยิ่งจะเป็นประโยชน์ต่อระบบราชการ และประเทศชาติ แถมจะเป็นประโยชน์กับตนเอง เวลาต่อสู้คดีในกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย แต่กลับแบกความรับผิดชอบไว้เพียงคนเดียว จนกลายเป็นเรื่องเศร้าและสะเทือนใจในที่สุด

 

แล้วบอกเลยว่า ความเน่าเหม็นที่เกิดขึ้นใน พม. ได้พูดคุยกับเพื่อนสื่อและผู้ใหญ่หลายท่าน ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะมีนายพุฒิพัฒน์ เข้าไปเกี่ยวข้องเพียงคนเดียว คงมีมือที่มองไม่เห็น และผู้บงการอีกหลายคน เนื่องจากความผิดปกติของการใช้งบประมาณของ พม. จนนำมาสู่โครงการที่เป็นปัญหา มีหลายสิบจังหวัด เพียงแต่ยังสาวไม่ถึงเท่านั้นเอง

 

คิดดูขนาด "น.ส.ปณิดา ยศปัญญา" หรือ "น้องแบม" อดีตนักศึกษาสาขาวิชาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งเป็นแกนนำนักศึกษาออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้และผู้ป่วยโรคเอดส์ ยังออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบันเรียนจบแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำงาน และไม่ได้พักที่ จ.ขอนแก่น เนื่องจากหลังจากที่มีการดำเนินการเอาผิดและการดำเนินการสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง

 

"ครอบครัวถูกข่มขู่ และตัวเองนั้นถูกขู่ฆ่า จึงได้ไปพักอาศัยที่ต่างจังหวัด และไม่สะดวกที่จะพบสื่อมวลชนหรือออกมาพูดใด ๆ ในเรื่องที่เกิดขึ้น"

 

อ่านบทสัมภาษณ์เรื่องนี้ ผ่าน "ไทยโพสต์" ก็ยังออกงง ก็ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เคยบอกว่าจะให้ คสช. ดูแลความปลอดภัยให้น้องแบม แถมมีข่าวว่า หลายหน่วยงานอ้าแขนต้อนรับ อยากให้เธอร่วมงานด้วย ในฐานะฮีโร่หญิงกล้าเปิดโปงการทุจริต

 

เลยต้องฝาก หัวหน้า คสช. เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย ไม่อยากให้คนทำดี กล้าเปลืองตัวเปิดโปงกระบวนการทุจริต แต่กลับไม่ได้เหลียวแลจากภาครัฐ แถมยัง ถูกคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ ...ถามว่า ต่อจากนี้ใครอยากจะมีส่วนกับภาครัฐ ช่วยกันจับคนปล้นชาติปล้นแผ่นดินล่ะครับ

 

 

 

 

 

 

 

 
 
 
 
 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw