ประเด็นร้อน

รัฐบาลใหม่ต้องไร้คอร์รัปชัน

โดย ACT โพสเมื่อ Mar 29,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ - -

 

เอกชนเปิดกว้างพร้อมร่วมงานทุกขั้วการเมือง

 

ส.อ.ท.แสดงจุดยืนต่อรัฐบาลใหม่ต้องไม่คอร์รัปชัน ยกตัวอย่าง "ทักษิณ" ทำงานเร็ว แต่ตายเพราะปัญหาคอร์รัปชัน หวังรัฐบาลใหม่เป็นที่ยอมรับไม่นำมาซึ่งการประท้วงรุนแรงจนซ้ำรอยเดิม ด้าน สทท.วอน กกต.เร่งสรุปตัวเลข ส.ส.ให้ชัดเจน เพื่อลดความคลุมเครือ พร้อมทำงานกับทั้งสองขั้วการเมือง ย้ำอย่ามีรัฐประหารอีก

 

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จุดยืนของ ส.อ.ท.ต่อรัฐบาลใหม่คือ ต้องการรัฐบาลที่ไม่มีคอร์รัปชัน เน้นการบริหารงานที่โปร่งใส ทำงานร่วมกับภาคเอกชน มีนโยบายชัดเจนเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ ที่สำคัญอยากเห็นการปรับโครงสร้างระบบราชการด้วยการลดขนาดจำนวนข้าราชการลงให้เหลือ 60% เมื่อเทียบกับจำนวนข้าราชการในปัจจุบันภายใน 20 ปีข้างหน้า ซึ่งสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานได้ และที่สำคัญก็ต้องปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการให้เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับภาคเอกชนเพื่อลดปัญหาคอร์รัปชัน

 

"พรรคใดที่ร่วมเป็นรัฐบาลแล้วเอาเอกชนไปช่วยงานงานก็จะเดินได้เร็ว แ

 

ต่อยากเห็นอย่างเดียวต้องไม่มีคอร์รัปชัน เหมือนกับรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่แม้ว่าสามารถปั่นเนื้องานให้ออกมาได้รวดเร็ว แต่ก็ตายเพราะติดปัญหาคอร์รัปชัน"

 

สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ส.อ.ท.ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นพรรคใดรวมกับพรรคใดขอเพียงให้มีการยอมรับและไม่นำมาซึ่งการประท้วงจนเกิดความรุนแรงขึ้น เพราะหากเกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุน การท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศทันที อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลคือ เรื่องจิตวิทยาของคนไทยที่ต่างเชียร์พรรคของตนเอง ซึ่งทำให้สังคมมีการทะเลาะเบาะแว้งไม่อยากให้เกิดขึ้น

 

"การจัดตั้งรัฐบาลไม่ควรทิ้งเวลาให้ล่าช้าเพราะถ้ายืดเยื้อออกไป ในที่สุดสังคมจะกดดันเอง หากการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่ลงตัว จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนใหม่ที่อาจชะลอการตัดสินใจเพื่อรอดูความชัดเจน แต่ในส่วนของการลงทุนที่ตัดสินใจแล้วจำเป็นจะต้องเดินตามแผนที่วางไว้ ส่วนการบริโภคอาจจะชะลอบ้าง แต่เป็นสินค้าที่ไม่จำเป็นมากกว่า"

 

สำหรับผลกระทบที่มีต่อภาพรวมการลงทุนหากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า ส.อ.ท.มองว่า ขณะนี้ทุกอย่างยังไม่ได้หยุดชะงักและยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ เพราะไม่เกิดเหตุการณ์ออกมาประท้วงหรือเกิดความวุ่นวายจนส่งผลกระทบความเป็นอยู่ของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน ขณะที่ปัญหาต่างๆที่ยังต้องสานต่อเนื่องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังมีอำนาจบริหารอยู่และยังมีอำนาจมาตรา 44

 

"หากมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้แล้วด้วยเสียงที่ก้ำกึ่งมากอาจจะทำให้รัฐบาลยิ่งต้องเร่งทำงานมากขึ้น และหากที่สุดไปไม่ไหวก็ต้องนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเดินไปตามระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องปกติ"

 

นายสุพันธุ์ กล่าวว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจไทยค่อนข้างปรับตัวดีขึ้น สะท้อนการเมืองที่มีเสถียรภาพสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมีส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจที่เคยชะลอตัวปรับตัวดีขึ้น ภาคเอกชนสามารถแข่งขันได้ ถ้าไม่มีปัญหาการเมืองหรือปัจจัยเสี่ยงเข้ามาส่งผลกระทบ ภาคธุรกิจก็สามารถเดินหน้าไปได้ต่อเนื่อง

 

"ส.อ.ท. ได้จัดทำสมุดปกขาวเพื่อรอเสนอรัฐบาลใหม่ให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยเฉพาะได้นำเสนอการนำนวัตกรรมเข้ามาบริหารจัดการ โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่เห็นว่าหากประเทศไทยต้องการเป็นครัวของโลกต้องเร่งปรับตัวเพราะขณะนี้หลายประเทศมีการปลูกพืชผักเหมือนไทยได้แล้ว"

 

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวยังคงจับตาปัจจัยทางการเมือง หลัง 2 พรรคใหญ่ชิงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก โดยอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งสรุปตัวเลขสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ให้ชัดเจน และลดความคลุมเครือ โดยเอกชนท่องเที่ยวพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคการเมือง ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ พร้อมหาคนที่เข้าใจบริบทการบริหาร และพัฒนาภาคท่องเที่ยวไทยจริงๆมาดูแล เพื่อรักษาอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดย สทท. คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีชาวต่างชาติเที่ยวไทย 40.64 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.17% จากปีที่แล้ว สร้างรายได้ 2.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.36%

 

"ไม่ต้องการเห็นการทำรัฐประหารซ้ำ นี่คือสิ่งที่น่ากลัว เพราะอาจทำให้ประเทศไทยถอยหลังลงคลองอีกรอบ ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาล ขอให้เดินหน้าต่อภายใต้แนวทางประชาธิปไตยขณะที่ภาพรวมการลงทุนของธุรกิจท่องเที่ยวนั้นยังต้องเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจกันต่อไป เนื่องจากเทรนด์การท่องเที่ยวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนหนุนการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรมสามารถยืนต่อไปในระยะยาวมากกว่า 10 ปี และไม่ได้รับผลกระทบมากหากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงจริงๆ".

 

 

 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw