ประเด็นร้อน

เชื้อโกงฝังรากลึกในสังคมไทย

โดย ACT โพสเมื่อ Apr 25,2017

 ความโลภเป็นบ่อเกิดที่ทำให้เกิดปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นตลอดจนการฉ้อโกงและการทำความชั่วรูปแบบต่างๆ ที่นับวันจะฝังรากลึกในสังคมไทยรุนแรงมากขึ้นทุกขณะทั้งในด้านกว้างและด้านลึกซึ่งสะท้อนจากข่าวการอื้อฉาวขบวนการฉ้อโกงเงินประชาชนเป็นมูลค่ามหาศาลอย่างต่อเนื่อง

          
ข่าวขบวนการต้มตุ๋นฉ้อโกงประชาชนที่เป็นข่าวคึกโครมก่อนหน้านี้ก็คือการหลอกขายทัวร์เดินทางไปญี่ปุ่นในราคาถูกแล้วลอยแพประชาชนนับพันคนที่ถูกหลอกให้ค้างเติ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาจนเกิดความโกลาหลและกลายเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลกโดยขบวนการ ต้มตุ๋นมีซินแสโชกุนเป็นตัวการสำคัญ โดยพบว่าขบวนการลวงโลกกลุ่มนี้ยังหลอกประชาชนให้มาลงทุนด้วยรูปแบบต่างๆ แล้วเชิดเงินหนีคิดเป็นมูลค่ามหาศาล
          
เช่นเดียวกันที่ก่อนหน้านี้มีการจับตัวสาวรายหนึ่งหลอกเชิดเงินประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากคิดเป็นมูลค่านับร้อยล้านบาทด้วยการขายทองราคาถูกผ่านทางออนไลน์จนมีประชาชนหลงเชื่อนับร้อยราย โดยช่วงแรกสาว 18 มงกุฎรายนี้จะอ่อยเหยื่อด้วยรูปแบบตกทองโดยส่งมอบทองให้เหยื่อในราคาถูกจริงตามคำสั่งซื้อจนเหยื่อตายใจและเกิดความโลภทุ่มเงินเพิ่มจำนวนสั่งจองทองราคาถูกแบบหมดหน้าตัก ซึ่งจะเข้าทางของขบวนการตกทองทางออนไลน์โดยเมื่อได้เงินการสั่งซื้อลอตใหญ่แล้วจะเปลี่ยนที่อยู่หลบหนีทันที
          
แต่ที่เป็นกำลังเป็นข่าวช็อกสังคมเพราะไม่น่าเชื่อว่าขบวนการฉ้อโกงจะแพร่ระบาดเกิดขึ้นในหมู่ผู้มีความรู้หรือแม้แต่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง โดยก่อนหน้านี้ แพทย์และผู้มีอาชีพมั่นคง ทางสังคม อาทิ วิศวกรกลุ่มหนึ่งได้เข้าแจ้งความ กับตำรวจเพื่อให้จับกุมตัวแพทย์หญิงในโรงพยาบาล ชื่อดังรายหนึ่งในข้อหาฉ้อโกงเงินแล้วหลบหนี
          
โดยแพทย์หญิงคนดังกล่าวซึ่งขณะนี้ หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วได้ตั้งบริษัทเพื่อการลงทุนโดยอ้างว่าสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากหลายเท่าตัว โดยอาศัยความรู้จักมักคุ้นเพื่อนในวงการแพทย์และอาชีพอื่นที่รู้จักแนะนำบอกต่อกันมา โดยมีแพทย์ วิศวกรและ ผู้มีอาชีพที่มั่นคงกลุ่มใหญ่ร่วมลงทุนกับแพทย์หญิงคนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่านับร้อยล้านบาทแต่แล้วแพทย์หญิงนักต้มตุ๋นกลับปิดกิจการหลบหนีออกนอกประเทศพร้อมเงินที่ฉ้อโกง
          
ล่าสุดเกิดข่าวอื้อฉาวเมื่อมีประชาชนเข้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการกองปราบปรามจนมีการออกหมายจับ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อาจารย์และอดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดย รศ.ดร.สวัสดิ์ ชักชวนให้อาจารย์และข้าราชการในจุฬาลงการณ์ในมหาวิทยาลัยนำเงินไปร่วมลงทุนในสหกรณ์ ลอตเตอรี่โดยอ้างว่าให้เงินปันผลถึงร้อยละ 1 ต่อเดือน แต่ภายหลังกลับไม่ได้จ่ายเงินปันผลตามที่อ้างแล้วหลบหนี โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกเข้าร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่กว่า 160 รายโดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
          
หากย้อนไปก่อนหน้านี้เคยเกิดกรณี อื้อฉาวที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศกรณีฉ้อโกงเงิน ฝากมูลค่านับพันล้านบาทโดยอดีตอธิการบดีของมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบังจนถูกดำเนินคดี
และเมื่อไม่นานมานี้ก็เกิดข่าวอื้อฉาว 13 รองอธิการบดีมหาวิทยาลับมหิดลพร้อมใจชิง ลาออกเพื่อหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์ใหม่ที่ให้ผู้บริหารระดับสูงของทุกมหาวิทยาลัยต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน

จากข่าวอื้อฉาวทั้งหมดที่เกิดขึ้นสะท้อนสัญญาณอันตรายสำหรับสังคมไทยที่การทุจริตคอร์รัปชั่นนับวันจะฝังรากลึกแม้แต่ในหมู่ปัญญาชน ทั้งแพทย์และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ตกเป็นข่าวทุจริตฉ้อโกงมากขึ้นเรื่อยๆ

- - สำนักข่าว แนวหน้า วันที่ 25 เมษายน 2560 - -