ประเด็นร้อน

พิสูจน์ธรรมาภิบาลรัฐ

โดย ACT โพสเมื่อ Jun 09,2017

- - สำนักข่าว ไทยรัฐ วันที่ 09/06/60 - -
          
พิษสงของวาทะ "ปลาสองน้ำ" บานปลายกลายเป็นวิวาทะระหว่าง กกต.กับฝ่ายรัฐบาล คสช. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการกกต.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้ว่า ปลาสองน้ำไม่ได้เกิดเฉพาะ กกต.องค์กรเดียวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็จะครบวาระ 5 คน จาก 9 คนและกรรมการป.ป.ช. ก็จะขาดคุณสมบัติถึง 8 ใน 9 คน
          
เป็นการตอบโต้เพื่อความเป็นธรรมถ้าจะเซ็ตซีโร่หรือโละ กกต.ทั้งหมดก็ต้องโละองค์กรอิสระอื่นๆด้วย มิฉะนั้นจะเป็นการเลือกปฏิบัติไม่ใช่ปลาสองน้ำ แต่เป็นสองมาตรฐานทำไมจึงพูดถึงแค่ กกต. และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) จะเลือกเซ็ตซีโร่แต่องค์กรที่แข็งข้อไม่ยอมหงอให้อำนาจรัฐหรืออย่างไร?
          
เท่านั้นยังไม่พอมีรายงานข่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมการ กกต.มีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีที่มีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรี 9 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าถือครองหุ้นเข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 264 อันอาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ขาดคุณสมบัติและพ้นจากรัฐมนตรีหรือไม่?
          
วาทะ "ปลาสองน้ำ" เป็นข้ออ้างของประธาน กรธ.และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เพื่อชี้แจงเหตุผลการโละ กกต.ทั้งคณะ อ้างด้วยว่ารัฐธรรมนูญใหม่กำหนดคุณสมบัติองค์กรอิสระไว้สูงผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนี้ ขาดคุณสมบัติหลายคนจึงโละ กกต. ทั้งคณะเพื่อสรรหาและแต่งตั้งใหม่ให้เป็นปลาน้ำเดียวไม่ใช่ปลาสองน้ำ
          
ตามรัฐธรรมนูญใหม่ 2560 ยิ่งจะทำให้ กกต.ชุดใหม่ กลายเป็นปลาหลายน้ำเพราะแยกที่มาของกรรมการเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่ง ได้แก่ ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาการต่างๆ 5 คน กลุ่มที่สอง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย 2 คน ถ้ากรรมการกลุ่มที่หนึ่งมาจากผู้เชี่ยวชาญคนละสาขาก็จะเป็น 5สาขาบวกกับนักกฎหมายจะกลายเป็นปลา 6 น้ำ
          
ข้ออ้างเรื่องปลาสองน้ำ จึงเป็นเหตุผลที่ไม่หนักแน่นส่วนเรื่องที่ กกต. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนรัฐมนตรี 9 คน รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายและรัฐมนตรีดังๆ อีกหลายคนเป็นเพียงรายงานข่าวหนังสือพิมพ์ "ไทยรัฐ" กกต.ยังไม่ได้ยืนยันเป็นทางการ ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติขององค์กรอิสระเพราะมีผู้ร้องเรียน
          
ทุกฝ่ายจึงควรปล่อยให้เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการรัฐธรรมนูญไม่ควรมีการยับยั้งหรือขัดขวางใดๆ จะเป็นผลดีต่อฝ่ายรัฐบาลมากกว่าและเป็นโอกาสที่จะพิสูจน์ให้ประชาชนทั่วไป ได้รู้ว่ารัฐบาลนี้เป็น "ธรรมาภิบาล" ที่แท้หรือไม่? ยึดความโปร่งใสหลักนิติธรรมคุณธรรมเป็นหลักในการบริหารราชการแผ่นดินจริงหรือไม่?