ประเด็นร้อน
ยังไม่ได้ข้อสรุปผลสอบแป๊ะเจี๊ยะ'การุณ'ชี้ต้องรอบคอบรอหลักฐานเพิ่ม
โดย ACT โพสเมื่อ Jun 23,2017
- - สำนักข่าว ไทยโพสต์ วันที่ 23/06/60 - -
กรุงเทพฯ * ยังไม่ได้ข้อสรุป ผลสอบสวน ผอ.รร.สามเสนฯ รับเงินใต้โต๊ะหรือไม่ เลขาฯ กพฐ.ยันต้องรอบคอบ ยังไม่ย้าย ผอ.ออกจาก รร. และต้องให้ตำรวจนำคลิปไปตรวจสอบ เพราะวันที่อัดคลิปไม่ตรงกับวันที่รับเด็ก พร้อมรับหลักฐานคลิปฉบับเต็มมาตรวจสอบเพิ่ม ด้าน รมว.ศธ.ลั่นฝากเด็กเป็นสินบน ทั้งคนให้ คนรับ ถือว่าผิดทั้งคู่ เตือนผู้บริหาร รร.ต้องระมัดระวังเรื่องทำนองนี้ ส่วนสมาคมศิษย์เก่าฯ แห่ให้กำลังใจ ผอ.
เมื่อเวลา 07.30 น. ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย นายอรรถยุทธ ลียะวนิช อดีตอุปนายกสมาคมนัก เรียนเก่าสามเสนวิทยาลัย พร้อมศิษย์เก่าแต่ละรุ่น กว่า 50 คน ได้นำช่อดอกไม้มามอบให้กำลังใจนายวิโรฒ สำรวล ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย โดยนายอรรถยุทธกล่าวว่า หลังจากเกิดกรณีคลิปเรียกรับเงินจำนวน 400,000 บาท แลกที่นั่งเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียน ตนรู้สึกตกใจและเสียใจ เหมือนสังคมได้พิพากษาให้นายวิโรฒมีความผิดไปแล้ว ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ ซึ่งที่ผ่านมา นายวิโรฒเป็นคนดีและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นศิษย์เก่าแต่ละรุ่นที่จบการศึกษาออกไปจึงเดินทางมาให้กำลังใจผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในโรงเรียน นักเรียนโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยทุกระดับชั้นยังคงทำกิจกรรมหน้าเสาธงและจัดการเรียนการสอนตามปกติ โดยหลังเคารพธงชาติเวลา 08.00 น. นักเรียนทุกระดับชั้นได้มอบดอกกุหลาบให้แก่นายวิโรฒ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ปฏิบัติงานต่อไปได้
ในวันเดียวกัน นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนัก งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพ มหานคร เขต 1 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีนิติกรของ สพฐ.ร่วมตรวจสอบด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะกำลังอยู่ระหว่างลงพื้นที่โรงเรียนตรวจข้อมูลทุกด้านที่มีอยู่ ซึ่งบุคลากรของโรงเรียน และนายวิโรฒ สำรวล ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ก็ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูลเป็นอย่างดี ดังนั้น ข้อสรุปในตอนนี้ก็คืออยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้นหากมีหลักฐานคลิปวิดีโอที่ระบุว่าเป็นคลิปฉบับเต็ม ก็ขอให้ส่งข้อมูลเข้ามา จะได้นำมาประกอบการพิจารณาต่อไป แต่หากผลการสืบข้อมูลของคณะกรรมการฯ พบว่ามีการ กระทำผิดจริง ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยทันที ซึ่ง สพฐ.ไม่ได้นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวอีกว่า ในกรณีของเด็กที่ถูกระบุว่าผู้ปกครองจ่ายเงินแลกที่นั่งเรียนระดับมัธยม ศึกษาปีที่ 1 นั้น พบว่าเด็กคนดังกล่าวมีรายชื่อเข้าเรียนตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน ตามเกณฑ์รับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษของโรงเรียน คือ 1.ข้อตกลงในการจัด ตั้งโรงเรียน 2.บุตรข้าราชการครูและบุคลากรปัจจุบันของโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และโรงเรียนอนุบาลสามเสนวิทยาลัย 3.นักเรียนในอุปการะของผู้ทำ คุณประโยชน์ต่อโรงเรียน และ 4.นักเรียนโควตาตาม ข้อตกลงของโรงเรียนคู่พัฒนา หรือโรงเรียนเครือข่าย แต่คลิปที่เผยแพร่ออกไปถูกถ่ายไว้ในวันที่ 19 เมษายน ซึ่งเป็นการพูดคุยถึงการบริจาคเงินเพื่อสร้างรั้วโรงเรียนใหม่ และในคลิปก็ยังไม่มีการรับเงินเกิดขึ้น ซึ่งนายวิโรฒก็ยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับเงินแต่อย่างใด และคลิปเหมือนถูกตัดต่อ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงโรงเรียน จนนายวิโรฒต้องไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทกับผู้เผยแพร่คลิป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการย้ายนายวิโรฒออกมาช่วยราชการเป็นการชั่วคราวก่อนหรือไม่ เพื่อให้คณะกรรมการฯ ทำงานตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ นายการุณกล่าวว่า เรื่องนี้เกิดเสียงแตกแยกเป็นสองฝ่ายภายในโรงเรียน มีทั้งอยากให้ สพฐ.ย้าย และไม่อยากให้ย้าย ดังนั้นตนจะต้องระมัดระวังและทำงานอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เพราะไม่เช่นนั้นจะสร้างความแตกให้เกิดขึ้นในโรงเรียนได้ ดังนั้นในตอนนี้คงยังไม่มีการโยกย้าย เพราะนายวิโรฒยังให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่คณะกรรมการฯ อย่างเต็มที่
ด้าน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมน ตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตนได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และไม่มีการยอมให้เกิดการฝากเด็กอยู่แล้ว สำหรับการดำเนินการรับนักเรียนต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์เท่านั้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น โดยหลักการถือว่าคนให้ก็มีส่วน คนรับก็มีส่วนในกระทำความผิดในลักษณะนี้เช่นกัน และที่นายกฯ พูดว่าถ้ามีการฝากเด็กจริง เด็กต้องรับผิดชอบโดยการให้ออกจากโรงเรียนนั้น เจตนาของนายกฯ ไม่ได้พูดถึงเด็กคนที่เกิดเรื่อง แต่พูดโดยหลักการทั่วไปว่า ในอนาคต การฝากเด็กถือเป็นสินบนชนิดหนึ่ง ต้องคำนึงถึงผลเสียที่เกิดขึ้น และผลเสียที่แย่ที่สุดจะเกิดกับเด็กที่ไม่รู้เรื่อง และนายกฯ ยังเห็นว่าต้องไม่มีเรื่องในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะความผิดแบบนี้เป็นความผิดทั้ง 2 ฝ่าย ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ คือระบบรับเด็กอย่างไร สอบเข้าอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น
นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อไปว่า สำหรับการสืบ สวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนได้กำชับเลขาฯ กพฐ.ให้ดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งทาง สพฐ.ก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และทาง ผอ.เองก็บอกว่าถูกตัดต่อคลิป ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรม สพฐ.ต้องพิสูจน์ให้ครอบคลุมทุกท่าน และต้องรอตำรวจพิสูจน์ว่าคลิปดังกล่าวถูกตัดต่อหรือไม่อย่างไร แต่ถ้าชัดเจนว่า ผอ.ผิดจริง ก็ต้องถูกลงโทษวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม นโยบายการรับนักเรียนโดยพิจารณาตามเงื่อนไขพิเศษนั้น เรื่องนี้คงไม่สามารถบอกได้ตอนนี้ว่าตนจะมีนโยบายดังกล่าวต่อไป หรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพราะเรื่องนี้ปฏิบัติมาหลายปีแล้ว และเป็นอย่างที่นายกฯ พูดคือ พ่อแม่อยากให้ลูกเข้าโรงเรียนดัง และแต่ละโรงเรียนมีที่มาที่ไปคนละแบบ และรัฐจัดการศึกษาได้ระดับหนึ่ง โรงเรียนดีๆ ไม่ใช่เฉพาะในเมืองไทย ผู้ปกครองก็อยากให้ลูกเข้าเรียน ดังนั้น ผู้ปกครองต้องเข้ามามีส่วน ชุมชนก็ต้องเข้ามามีส่วนในการกำหนดนโยบาย ดังนั้น เมื่อต้องมีโควตา มีเด็กพิเศษ ทุกอย่างต้องทำอย่างโปร่งใส จะไปตัดเสื้อตัวเดียวและใช้กับทุกคนคงไม่ได้
"การเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้ทุกคนจะดำเนินการให้โปร่งใสมากขึ้น ต่อจากนี้ผู้บริหารโรงเรียนต้องระมัดระวังแบบที่นายกรัฐมนตรีและผมระมัดระวัง ไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองไปสัมผัสกับสิ่งที่เป็นความผิด" รมว.ศธ.กล่าว.