ประเด็นร้อน

กฎแห่งกรรมอัลไพน์

โดย ACT โพสเมื่อ Aug 31,2017

 - - สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ - -


เข้าคุกอีกคน สำหรับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกฯ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

 

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ในคดีที่ดินอัลไพน์ เมื่อครั้งที่ยงยุทธ รับราชการเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทยช่วงปี 2544

ที่ดินอัลไพน์ เป็นคดีที่กินเวลาอย่างยาวนาน ต้นเรื่องเกิดจากคุณยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ยกที่ดิน 730 ไร่เศษ บริเวณคลองหลวง จ.ปทุมธานี ให้กับวัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยต้องการให้วัดเก็บค่าเช่าและนำเงินมาทำนุบำรุงพระศาสนา

 

เมื่อคุณยายเนื่อมถึงแก่กรรม ปรากฏว่าเจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร ขณะนั้นต้องการจะขายที่ดิน แต่ผู้จัดการมรดกเดิมที่มี 3 คนไม่ยอมจึงได้มีการตั้งผู้จัดการมรดกใหม่คือ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ

 

จากนั้นที่ดินดังกล่าวก็ถูกโอนให้แก่มูลนิธิมหามกุฏฯ แล้วจดทะเบียนขายในวันที่ 31 ส.ค. 2533 ให้แก่ บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท กับ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ

 

แต่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ผู้ใดจะถือครองที่ดินของวัดเกิน 50 ไร่ ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่ทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้นคือ เสนาะ เทียนทอง อนุมัติให้ถือครองได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้กรมการศาสนา

 

ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยในข้อกฎหมาย และสรุปว่า ที่ดินนี้เป็นที่ธรณีสงฆ์ วัดได้กรรมสิทธิ์ทันทีที่คุณยายเนื่อมถึงแก่กรรม มูลนิธิมหามกุฏฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกต้องโอนที่ดินมรดกตามพินัยกรรมที่ระบุไว้ให้ตกแก่วัด เท่านั้น จะโอนให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้

 

อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้นจึงมีคำสั่งเพิกถอนรายการจดทะเบียนสิทธิ นิติกรรมและโฉนดที่ดินแต่ประชาชนเจ้าของบ้านจัดสรรในสนามกอล์ฟอัลไพน์อุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง โดย ยงยุทธ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของกระทรวงมหาดไทย พิจารณาแล้วก็มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของกรมที่ดิน

 

ที่ดินอัลไพน์ จึงกลายเป็นคดีที่ยืดเยื้อยาวนาน กระทั่งวานนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินว่าพินัยกรรมของคุณยายเนื่อมระบุชัดเจน ยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้วัด โดยที่ดินตกเป็นที่ธรณีสงฆ์ทันทีที่คุณยายเนื่อมเสียชีวิต แม้จะยังไม่ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ก็ตาม

 

การที่ ยงยุทธ เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน จึงเป็นการจงใจละเลยข้อเท็จจริงต่างๆ ตีความกฎหมายให้ผิดเพี้ยนจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ใช้ดุลพินิจแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแก่ผู้อื่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่วัด ทำลายศรัทธาผู้ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เช่น คุณยายเนื่อม จึงมีความผิด

 

ถือเป็นการปิดฉากที่ดินอัลไพน์ไปอีกคดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ที่ดินอัลไพน์ ยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกมาก รอดพ้นกฎหมายไปได้

 

ทว่ากฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ การเบียดบังที่ดินวัด เป็นบาปมหันต์ เห็นแล้วน่าประหวั่นพรั่นพรึง กับสิ่งที่บุคคลเหล่านี้จะได้รับ

 

 

 

 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน


Follow LINE: http://bit.ly/2vDtGHV
Follow Facebook: http://bit.ly/2x3oArO