ประเด็นร้อน

เพิ่งฝนแรก ของมรสุมใหญ่กรรมของธาริต

โดย ACT โพสเมื่อ Jan 24,2018

- - สำนักข่าวแนวหน้า - -

 

คอลัมน์ กวนน้ำให้ใส  โดย : สารส้ม

 

สัปดาห์ที่แล้ว... ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาคดีอดีตอธิบดีดีเอสไอ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" แสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ จงใจปกปิด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ปรับหนึ่งหมื่นบาท แต่นายธาริตสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง

 

คงเหลือโทษจำคุก 3 เดือน แต่รอการลงโทษไว้ 2 ปี  ปรับ 5 พันบาท

 

ประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ต่างแสดงความเห็นว่อนโลกออนไลน์ ทำนองว่า ทำไมโทษเบาจัง ไม่ต้องติดคุกจริงๆ แถมปรับแค่ 5 พันบาท

 

อันที่จริง พึงเข้าใจว่า คดีนี้ ศาลฎีกาฯ ท่านตัดสินไปตามตัวบทกฎหมาย และบรรทัดฐานเดิมที่วางไว้ ถูกต้องทุกประการแล้ว แม้จะไม่สะใจใครหลายคน แต่สังคมต้องยอมรับคำพิพากษา

 

ทว่าคดีนี้ เปรียบเสมือนเป็นเพียงฝนแรกของมรสุมชีวิตอันเนื่องมาแต่กรรมของนายธาริต เพ็งดิษฐ์

 

1. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม.177/2560 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง  นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้คัดค้าน กรณีนายธาริตแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ

 

นายธาริตให้การรับสารภาพ

 

ศาลฎีกาฯ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายธาริตและนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ประกอบด้วย เงินฝากธนาคาร 4 บัญชี มีเงินรวม 5 ล้านบาท เงินลงทุนในหุ้นบริษัท 2 แห่งมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 2 แปลง รวม 2 ไร่ 50 ตารางวา ในอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท  และเงินฝากธนาคาร 2 บัญชีเป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในนามของนายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ หลานของนางวรรษมล ที่มอบหมาย ให้อยู่ในความครอบครองดังกล่าว เป็นการปกปิด ไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรส กรณีทุก 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายธาริตมีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน

 

จึงมีมติเอกฉันท์ว่า นายธาริต จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งต่อป.ป.ช.ทุก 3 ปี ที่อยู่ในตำแหน่ง จึงห้ามนายธาริตดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่นายธาริตพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ลงโทษตามพ.ร.ป.ป.ป.ช.มาตรา 41 วรรคหนึ่ง และมาตรา 119 พิพากษาว่า ให้ลงโทษจำคุก นายธาริต 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท คำให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท นายธาริต ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี

 

น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ สำหรับคดีปกปิดหรือไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน หากนักการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งรับสารภาพ  ศาลฎีกาฯ ก็จะเมตตา โทษจำคุก รอลงอาญาทุกคดีไป

 

2. คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินที่นายธาริตจะต้องลุ้นหนักกว่า  คงไม่พ้นคดีร่ำรวยผิดปกติ

 

กรณี ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ 7:0 ชี้มูลความผิดนายธาริต ร่ำรวยผิดปกติ พร้อมส่งสำนวนต่ออัยการสูงสุดให้ยื่นต่อศาลให้พิพากษาให้ทรัพย์สินของนายธาริต คู่สมรส และผู้เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 346,652,588 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน

 

คดีนี้ สืบเนื่องจากประชาชนเข้าร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบกรณีข้าราชการระดับสูงสร้างบ้านบนเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา รุกล้ำที่สาธารณะหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของนายธาริต เป็นผู้ครอบครอง ป.ป.ช. จึงตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายธาริตที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ว่ามีบ้านหลังดังกล่าวหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่พบรายการดังกล่าว จึงมีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ขึ้นมาตรวจสอบ จากนั้น พบว่า มีความพยายามในการยักย้าย แปรสภาพ ซุกซ่อนทรัพย์สินต่างๆ ป.ป.ช. จึงออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้ 2 ครั้ง (เมื่อ 19 เมษายน 2558  และ 30 ธันวาคม 2558) จำนวน 90,260,687 บาท

 

จากนั้น ป.ป.ช. ชุดใหญ่ จึงมีมติชี้มูลความผิดนายธาริต ฐานร่ำรวยผิดปกติ

 

สำหรับรายการทรัพย์สินของนายธาริต คู่สมรส และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุม ป.ป.ช.ให้ตกเป็นของแผ่นดิน มีจำนวน 20 รายการ ประกอบด้วยเงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ในชื่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ - นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ - นายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์, ที่ดินโฉนดหลายแปลง ที่ จ.ชัยนาท - จ.ปทุมธานี - อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

 

รวมถึงบ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น เลขที่ 444 และสิ่งปลูกสร้างจำนวน 5 หลัง ในชื่อ "ฟิออเร่ ปาร์ค" หมู่ที่ 11 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ปลูกสร้างบนที่ดินโฉนดเลขที่ 8078, 9326 และ 9917 กรรมสิทธิ์ในชื่อนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์

 

รถยนต์ยี่ห้อ MERCEDES BENZ รุ่น E 250 - รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD ฯลฯ

 

ล่าสุด อัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ขอให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวย ผิดปกติของนายธาริต ตกเป็นของแผ่นดิน โดยศาลแพ่งรับคำร้องของอัยการไว้ไต่สวนพยานแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน

 

3. นายธาริตยังมีคดีติดตัวอีกหลายสิบคดี ต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป

 

รวมทั้งกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในข้อหาการประพฤติมิชอบ กรณีอายัดบัญชีเงินฝากในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในปี 2556 โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จะนัดฟังคำสั่งการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 29 มกราคม 2561 นี้

 

นอกจากนี้ กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนการทุจริตในกรณีสหกรณ์คลองจั่น ประเด็นการขายที่ดินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำนวน 1,822 ไร่ ให้กับบริษัท พิษณุโลก เอทานอล จำกัด วงเงินกว่า 477 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการขายเพื่อชดใช้คืนให้กับสหกรณ์ฯ แต่พบว่า มีการคืนเงินให้กับสหกรณ์แค่ 100 ล้านบาท ดีเอสไอสอบสวนพบว่าดีเอสไอในยุคนายธาริตเกี่ยวข้องด้วย

 

แต่จะไปถึงตัวนายธาริตหรือไม่? เพราะปรากฏว่า นายธาริต อดีตอธิบดีดีเอสไอ เป็นผู้อนุมัติให้ดำเนินการขายที่ดินดังกล่าว

 

ทั้งหมด คงจะไปโทษอะไรคงไม่ได้ นอกจากว่าสรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามกรรม

 

 

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw